ฮุน เซน แถ ไม่ได้ห้ามคนไทยกลับปท. ปิดช่องทางบกปกป้องชีวิตคน แต่บินได้ตามปกติ
สมเด็จฯฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา โพสต์เฟซบุ๊กชี้แจงหลังมีข่าวก่อนหน้านี้ว่า กัมพูชาสั่งปิดพรมแดนทางบก ทำให้คนไทยจำนวนมากที่ต้องการเดินทางกลับประเทศต้องตกค้างอยู่ฝั่งกัมพูชา ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศของไทยออกมายืนยันว่า การกระทำดังกล่าวของกัมพูชาถือเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน ล่าสุดสมเด็จฯฮุน เซน โพสต์ว่า
เมื่อวานนี้ผมได้โพสต์ข้อความแสดงความคิดเห็นถึงรัฐบาล เกี่ยวกับกรณีที่ควรระงับการเดินทางข้ามแดนทางบกระหว่างประชาชนกัมพูชาและประชาชนไทย เพื่อรับประกันความปลอดภัยของทั้งประชาชนกัมพูชาและประชาชนไทย
อาจมีความเข้าใจผิด หรือมีความพยายามสร้างประเด็น จากฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด ที่คิดว่าเราจะไม่อนุญาตให้ประชาชนไทยเดินทางกลับประเทศของตน
ผมขอชี้แจงให้ชัดเจนว่า การระงับการเดินทางนั้น ควรทำเฉพาะการเดินทางทางบกเท่านั้น เนื่องจากการสู้รบและการรุกรานได้เกิดขึ้นตลอดแนวชายแดนทางบกแล้ว รวมถึงบางส่วนของพื้นที่ทางทะเลด้วย
สำหรับการเดินทางทางอากาศ ยังสามารถดำเนินการได้ตามปกติ เพราะไม่มีการสู้รบที่สนามบิน
ด้วยเหตุนี้ ขอให้พี่น้องประชาชนไทยที่อาศัยอยู่ในกัมพูชา สามารถเดินทางออกจากกัมพูชาทางอากาศ ผ่านสนามบินในกรุงพนมเปญหรือเสียมราฐได้ ส่วนประชาชนไทยที่ทำงานอยู่ใกล้ชายแดนเวียดนาม สามารถเดินทางออกผ่านเวียดนาม และหาวิธีเดินทางกลับประเทศไทยต่อไปได้
สำหรับประชาชนกัมพูชา หากต้องการกลับกัมพูชา ก็ต้องเดินทางกลับทางอากาศ จากสถานที่ที่มีเที่ยวบินมายังกัมพูชา

ขอย้ำอีกครั้งว่า เราไม่ได้ห้ามการเดินทางของประชาชนกัมพูชาหรือประชาชนไทยแต่อย่างใด สิ่งที่เราขอให้ระงับคือ การเดินทางทางบก ซึ่งเป็นจุดที่มีความเสี่ยงอันตรายต่อชีวิตของประชาชน
ขอให้ตรวจสอบข้อความที่ผมโพสต์เมื่อวานนี้อีกครั้ง และโปรดอย่านำเจตนาดีของผม ที่ต้องการปกป้องชีวิตของผู้คน ทั้งชาวกัมพูชาและชาวไทย มาใช้โจมตีผมในลักษณะเช่นนี้
โรลส์-รอยซ์ คัลลิแนน ซีรีส์ II ปี 2025: นิยามใหม่แห่งยนตรกรรมอัลตร้าลักชัวรี่ SUV
ในโลกที่ความหรูหราถูกนิยามใหม่ครั้งแล้วครั้งเล่า มีเพียงไม่กี่ยี่ห้อที่ยังคงยืนหยัดเป็นประภาคารแห่งความยอดเยี่ยมและประณีตไร้ที่ติ โรลส์-รอยซ์ คือหนึ่งในนั้น และในปี 2025 นี้ การปรากฏตัวของ โรลส์-รอยซ์ คัลลิแนน ซีรีส์ II ได้ตอกย้ำสถานะความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ SUV ระดับอัลตร้าลักชัวรี่ได้อย่างไร้ข้อกังขา นี่ไม่ใช่เพียงการปรับโฉม หากแต่เป็นการยกระดับประสบการณ์ทั้งหมดให้ก้าวล้ำไปอีกขั้น ตอบสนองความต้องการของผู้ครอบครองที่มองหาสุดยอดยนตรกรรมที่ผสานความสง่างามเหนือกาลเวลาเข้ากับเทคโนโลยีและวิสัยทัศน์แห่งอนาคต
ในฐานะผู้ที่คลุกคลีอยู่ในวงการยนตรกรรมหรูมานานกว่าทศวรรษ ผมได้เห็นวิวัฒนาการและความเปลี่ยนแปลงมากมายในตลาด แต่ปรัชญาของโรลส์-รอยซ์ที่ว่า “Effortless Everywhere” หรือความพยายามเพียงน้อยนิดที่จะไปได้ทุกที่นั้น ยังคงเป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้รถยนต์คันนี้แตกต่างอย่างสิ้นเชิงจากรถ SUV หรูรุ่นอื่นๆ ในปัจจุบัน ด้วยราคาเริ่มต้นที่ 38,000,000 บาท คัลลิแนน ซีรีส์ II ไม่ได้เป็นเพียงพาหนะ แต่เป็นการลงทุนในสุนทรียภาพและสถานะทางสังคมที่ยากจะเลียนแบบ
จากจุดเริ่มต้นสู่ความสมบูรณ์แบบ: วิวัฒนาการของคัลลิแนน
ย้อนกลับไปในปี 2561 การเปิดตัวของโรลส์-รอยซ์ คัลลิแนน รุ่นแรก ได้สร้างปรากฏการณ์ใหม่ในวงการรถยนต์ SUV ระดับอัลตร้าลักชัวรี่ มันได้นำพาผู้คนเข้าสู่ประสบการณ์ “Magic Carpet Ride” หรือการเดินทางที่นุ่มนวลราวพรมวิเศษในทุกสภาพเส้นทาง ซึ่งเป็นสิ่งที่หาไม่ได้ในคู่แข่งรายอื่น ๆ ความสำเร็จของคัลลิแนนรุ่นแรกเป็นบทพิสูจน์ว่า แม้แต่แบรนด์ที่หยั่งรากลึกในประวัติศาสตร์อย่างโรลส์-รอยซ์ ก็สามารถปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัยและดึงดูดกลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ ที่ต้องการความหลากหลายในการใช้งาน โดยไม่ทิ้งซึ่งแก่นแท้ของความหรูหราที่ตนยึดถือ
ข้อมูลที่น่าสนใจคือ เมื่อคัลลิแนนเปิดตัวครั้งแรก กลุ่มลูกค้าใหม่กว่า 70% เป็นผู้ที่ไม่เคยเป็นเจ้าของโรลส์-รอยซ์มาก่อน และที่สำคัญคือ สถิติบ่งชี้ว่าเจ้าของคัลลิแนนรุ่นแรกกว่า 10% เริ่มหันมาขับรถด้วยตนเอง แทนที่จะให้พนักงานขับรถ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของค่านิยมและไลฟ์สไตล์ในกลุ่มผู้ครอบครองรถยนต์หรู นอกจากนี้ อายุเฉลี่ยของเจ้าของคัลลิแนนยังลดลงอย่างมีนัยสำคัญ จาก 56 ปีในปี 2553 เหลือเพียง 43 ปีในปัจจุบัน ซึ่งตอกย้ำว่า โรลส์-รอยซ์ กำลังเป็นที่นิยมในหมู่ผู้บริหารและนักธุรกิจรุ่นใหม่ที่ประสบความสำเร็จ
คัลลิแนน ซีรีส์ II ได้รับการพัฒนาต่อยอดจากรากฐานที่แข็งแกร่งนี้ โดยมุ่งเน้นการปรับปรุงรายละเอียดอย่างพิถีพิถัน ทั้งในด้านการออกแบบ ประสิทธิภาพ และเทคโนโลยี เพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่มองหาความเป็นเลิศในทุกมิติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ชื่นชอบการขับขี่ด้วยตนเองในสภาพแวดล้อมเมืองใหญ่ ซึ่งสะท้อนผ่านการออกแบบที่เน้นความระยิบระยับของแสงไฟจากตึกระฟ้าในเมืองหลวงยามค่ำคืน
งานออกแบบภายนอก: การปรับปรุงที่ลึกซึ้งและทรงพลัง
การเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดของคัลลิแนน ซีรีส์ II เริ่มต้นจากด้านหน้า การออกแบบกันชนหน้าได้รับการปรับปรุงใหม่ทั้งหมด โดยมีเส้นสายที่ลากจากจุดต่ำสุดของช่องดักอากาศ ไปบรรจบกันที่กึ่งกลางของไฟหน้า คล้ายรูปทรงตัว ‘B’ ที่สง่างาม ให้ความรู้สึกที่แข็งแกร่งและมั่นคงยิ่งขึ้น นอกจากนี้ กระจังหน้า Pantheon อันเป็นเอกลักษณ์ ยังคงได้รับการติดตั้งอย่างโดดเด่น แต่คราวนี้มาพร้อมกับการตกแต่งแบบเรืองแสง ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่โรลส์-รอยซ์ได้นำเสนอเป็นครั้งแรกในรุ่น Phantom Series II และเป็นที่ชื่นชอบอย่างมาก มันช่วยเพิ่มมิติและความหรูหราให้กับด้านหน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยามค่ำคืน กลายเป็นจุดสนใจที่ไม่เหมือนใคร
ไฟหน้าถูกปรับให้ดูเพรียวบางลง แต่ยังคงให้ความสว่างและประสิทธิภาพการส่องสว่างที่ยอดเยี่ยม รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ แต่สำคัญคือ ล้อขนาด 23 นิ้วที่ออกแบบใหม่ ซึ่งเป็นขนาดที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาในคัลลิแนน ล้อแต่ละวงถูกขึ้นรูปจากก้อนโลหะชิ้นเดียวอย่างประณีต มาพร้อมกับลาย 7 ก้านที่ดูแข็งแกร่งแต่ยังคงความหรูหรา สามารถเลือกการตกแต่งแบบขัดเงาบางส่วนหรือทั้งหมดได้ตามความต้องการของลูกค้า ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโปรแกรม Bespoke อันเลื่องชื่อของโรลส์-รอยซ์ ยางและล้อขนาดใหญ่เหล่านี้ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มความสง่างามและสมดุลให้กับสัดส่วนของรถเท่านั้น แต่ยังช่วยยกระดับประสิทธิภาพการยึดเกาะถนนและการควบคุมไปอีกขั้น
ด้านท้ายรถมีการปรับปรุงที่ละเอียดอ่อนแต่ชัดเจน เช่นเดียวกับการสะท้อนแสงจากอาคารสูง การจัดวางไฟท้ายที่ได้รับการออกแบบใหม่ให้มีความทันสมัยและลงตัวยิ่งขึ้น พร้อมรายละเอียดการขัดเงาเล็กน้อยที่ตัดกันกับพื้นผิวของถนน สร้างความโดดเด่นในทุกมุมมอง สัญลักษณ์ RR บนฝาปิดดุมล้อคู่หลังยังคงอยู่ เพื่อตอกย้ำอัตลักษณ์ของแบรนด์อันเป็นที่รักยิ่ง การปรับปรุงเหล่านี้ไม่เพียงแต่ทำให้คัลลิแนน ซีรีส์ II ดูสดใหม่และทันสมัยขึ้นสำหรับปี 2025 แต่ยังคงรักษา DNA แห่งความหรูหราและสง่างามของโรลส์-รอยซ์ไว้อย่างครบถ้วน
ห้องโดยสาร: วิมานส่วนตัวแห่งเทคโนโลยีและความประณีต
เมื่อเปิดประตูเข้าสู่ภายในห้องโดยสารของคัลลิแนน ซีรีส์ II คุณจะพบกับอาณาจักรแห่งความหรูหราที่ถูกรังสรรค์ขึ้นอย่างพิถีพิถันในทุกรายละเอียด แดชบอร์ดได้รับการออกแบบใหม่ทั้งหมด โดยมีกระจกทั้งชิ้นสะท้อนประสิทธิภาพสูงสุดของเทคโนโลยีสมัยใหม่ ผสานเข้ากับงานฝีมือดั้งเดิมได้อย่างไร้ที่ติ
สิ่งที่เป็นนวัตกรรมใหม่ที่สำคัญคือ ‘Central Information Display’ หรือหน้าจอข้อมูลส่วนกลาง ซึ่งเป็นศูนย์รวมของการควบคุมระบบดิจิทัลทั้งหมดของรถ และนี่คือครั้งแรกที่โรลส์-รอยซ์ได้นำเสนอระบบดิจิทัลที่สมบูรณ์แบบพร้อมกับตัวละคร ‘Spirit’ ซึ่งเป็นอวตารดิจิทัลของ Spirit of Ecstasy อันเป็นสัญลักษณ์ของแบรนด์ Spirit of Ecstasy ดิจิทัลนี้จะปรากฏตัวขึ้นบนหน้าจอเรือนไมล์ดิจิทัล และเป็นส่วนหนึ่งของระบบปฏิสัมพันธ์กับผู้ขับขี่ ทำให้ประสบการณ์การขับขี่มีความเป็นส่วนตัวและเชื่อมโยงกับแบรนด์มากยิ่งขึ้น สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าโรลส์-รอยซ์กำลังก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มตัว โดยยังคงรักษาสัญลักษณ์อันเป็นเอกลักษณ์ไว้
เบาะนั่งในคัลลิแนน ซีรีส์ II เป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ ด้วยการนำเสนอเบาะ ‘Duality Twill’ ที่เย็บตะเข็บอย่างประณีต โดยเฉพาะรุ่นที่มีการเย็บตะเข็บ 2.2 ล้านมุมมอง ซึ่งเป็นการบ่งบอกถึงความใส่ใจในรายละเอียดที่เหนือชั้น วัสดุที่ใช้ในการตกแต่งภายในทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นหนังแท้ ไม้วีเนียร์ หรือโลหะขัดเงา ล้วนผ่านการคัดสรรและประกอบด้วยมืออย่างพิถีพิถัน เพื่อให้ได้คุณภาพสูงสุดและความรู้สึกที่หรูหราในทุกสัมผัส
ระบบปรับอากาศ ระบบเสียง และระบบแสงไฟภายในห้องโดยสาร ล้วนได้รับการออกแบบมาเพื่อให้ผู้โดยสารได้รับความสะดวกสบายสูงสุด ไม่ว่าจะเป็นการปรับอุณหภูมิในแต่ละโซน การเลือกเพลงจากระบบเสียง Bespoke Audio อันยอดเยี่ยม หรือการสร้างบรรยากาศด้วยแสงไฟ Ambient Lighting ที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามอารมณ์ คัลลิแนน ซีรีส์ II มุ่งมั่นที่จะเป็นพื้นที่ส่วนตัวที่แท้จริง เป็นเสมือนวิมานที่เคลื่อนที่ได้ ปราศจากความวุ่นวายจากโลกภายนอก
พลังที่ไร้ขีดจำกัดและความนุ่มนวลอย่างที่สุด
หัวใจสำคัญที่ขับเคลื่อน โรลส์-รอยซ์ คัลลิแนน ซีรีส์ II คือเครื่องยนต์ V12 สูบ ขนาด 6.75 ลิตร อันทรงพลัง ซึ่งเป็นเครื่องยนต์ที่ได้รับการยกย่องว่าให้การตอบสนองที่นุ่มนวลและเงียบที่สุดในอุตสาหกรรม ถึงแม้ว่าโลกกำลังมุ่งหน้าสู่ยุคของรถยนต์ไฟฟ้า แต่โรลส์-รอยซ์ยังคงเชื่อมั่นในพลังและความสง่างามของเครื่องยนต์สันดาปภายใน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มลูกค้าที่ยังคงปรารถนาประสบการณ์การขับขี่แบบดั้งเดิมที่เปี่ยมด้วยพละกำลังและความประณีต
ด้วยพละกำลังมหาศาล เครื่องยนต์ V12 ทำให้คัลลิแนน ซีรีส์ II สามารถเคลื่อนที่ได้อย่าง “Effortless Everywhere” ไม่ว่าจะบนถนนในเมืองที่คับคั่ง หรือเส้นทางที่ทุรกันดารกว่า ความสามารถในการส่งกำลังอย่างราบรื่นและต่อเนื่อง ทำให้ผู้ขับขี่รู้สึกถึงความมั่นใจและควบคุมได้ในทุกสถานการณ์
ระบบช่วงล่าง “Magic Carpet Ride” ที่ได้รับการจดสิทธิบัตรของโรลส์-รอยซ์ ได้รับการปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้นไปอีกขั้นในซีรีส์ II ด้วยการใช้เทคโนโลยีกล้องสแกนถนนล่วงหน้า เพื่อปรับการตอบสนองของระบบกันสะเทือนก่อนที่ล้อจะสัมผัสกับพื้นผิวที่ไม่เรียบ ทำให้ผู้โดยสารแทบไม่รู้สึกถึงแรงกระแทกจากพื้นผิวถนนเลยแม้แต่น้อย นี่คือความลับเบื้องหลังประสบการณ์การเดินทางที่นุ่มนวลราวลอยอยู่บนอากาศ ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้โรลส์-รอยซ์แตกต่างจากคู่แข่งอย่างสิ้นเชิง
ประสบการณ์ Bespoke ที่ไร้ขีดจำกัด: การสร้างสรรค์ความเฉพาะตัว
สิ่งที่เป็นหัวใจสำคัญของปรัชญาโรลส์-รอยซ์ และเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้แบรนด์นี้เป็นที่ต้องการในระดับสูงสุด คือโปรแกรม Bespoke ลูกค้าสามารถปรับแต่งคัลลิแนน ซีรีส์ II ได้ทุกรายละเอียดตามความต้องการส่วนบุคคล ตั้งแต่สีภายนอกที่สามารถสร้างขึ้นใหม่ได้ตามเฉดสีที่ต้องการ การเลือกวัสดุภายในที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นประเภทของหนัง ลวดลายของไม้วีเนียร์ การฝังเพชรหรืออัญมณีในแผงหน้าปัด ไปจนถึงการออกแบบลวดลายบนเพดานห้องโดยสารแบบ ‘Starlight Headliner’ ที่จำลองกลุ่มดาวบนท้องฟ้าในคืนวันสำคัญของคุณ
ทีมงาน Bespoke ของโรลส์-รอยซ์คือช่างฝีมือผู้เชี่ยวชาญ ที่จะทำงานร่วมกับลูกค้าอย่างใกล้ชิดเพื่อแปลงวิสัยทัศน์และความปรารถนาให้กลายเป็นความจริง โปรแกรมนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่การเลือกตัวเลือกจากแค็ตตาล็อก แต่เป็นการสร้างสรรค์งานศิลปะที่เคลื่อนที่ได้ เป็นการลงทุนในรถหรูที่สะท้อนบุคลิกและความเป็นเอกลักษณ์ของผู้ครอบครองอย่างแท้จริง ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้ ราคา Rolls-Royce Cullinan Series II คุ้มค่าในสายตาของนักสะสมและผู้ที่ต้องการ “รถยนต์ส่วนบุคคลระดับสูงสุด”
คัลลิแนน ซีรีส์ II ในตลาดปี 2025: ผู้นำที่ไร้คู่เปรียบ
ในสภาพตลาดรถยนต์ SUV หรูปี 2025 ที่มีการแข่งขันสูงขึ้น คัลลิแนน ซีรีส์ II ยังคงยืนหยัดเป็นผู้นำด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่นและปรัชญาที่ชัดเจน แม้จะมีคู่แข่งที่น่าเกรงขามอย่าง Bentley Bentayga หรือ Aston Martin DBX แต่โรลส์-รอยซ์ คัลลิแนน ซีรีส์ II ก็ยังคงมีจุดแข็งที่ไม่มีใครเหมือน นั่นคือ “ประสบการณ์โรลส์-รอยซ์” ที่ไม่ได้มีเพียงแค่รถยนต์ แต่รวมถึงมรดกทางวัฒนธรรม งานฝีมือที่ไม่มีใครเทียบได้ และการบริการลูกค้าที่ไร้ที่ติ
การปรับปรุง เทคโนโลยีรถยนต์หรู 2025 ในคัลลิแนน ซีรีส์ II ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้ใช้งานง่ายและไม่สร้างความรู้สึกซับซ้อนให้กับผู้ขับขี่ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับกลุ่มลูกค้าที่ต้องการความเรียบง่ายแต่เปี่ยมประสิทธิภาพ นอกจากนี้ การมุ่งเน้นที่การขับขี่ในเมืองและประสบการณ์ของเจ้าของรถ ก็เป็นการปรับตัวให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของกลุ่มลูกค้าใหม่ที่อายุน้อยลงและมีส่วนร่วมกับการขับขี่มากขึ้น
บทสรุป: นิยามของความหรูหราที่แท้จริง
โรลส์-รอยซ์ คัลลิแนน ซีรีส์ II ปี 2025 ไม่ใช่แค่การอัปเดตเล็กน้อย แต่เป็นการยกระดับมาตรฐานของยนตรกรรมอัลตร้าลักชัวรี่ SUV ไปอีกขั้นอย่างสมบูรณ์แบบ มันเป็นเครื่องยืนยันถึงความมุ่งมั่นของโรลส์-รอยซ์ในการสร้างสรรค์รถยนต์ที่เหนือความคาดหมาย ผสมผสานความงามเหนือกาลเวลาเข้ากับนวัตกรรมล้ำสมัยได้อย่างลงตัว
ด้วยการออกแบบที่สะท้อนความสง่างามของเมืองใหญ่ ห้องโดยสารที่เปรียบเสมือนวิมานส่วนตัวที่เปี่ยมด้วยเทคโนโลยีและงานฝีมืออันประณีต รวมถึงสมรรถนะการขับขี่ที่ “Effortless Everywhere” คัลลิแนน ซีรีส์ II จึงเป็นสุดยอดยนตรกรรมสำหรับผู้ที่มองหาสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิต เป็นการแสดงออกถึงรสนิยมและความสำเร็จที่แท้จริง
ค้นพบนิยามใหม่แห่งความหรูหราที่แท้จริง พร้อมสัมผัสประสบการณ์ Bespoke ที่ไร้ขีดจำกัดกับ โรลส์-รอยซ์ คัลลิแนน ซีรีส์ II ได้แล้ววันนี้ที่ Rolls-Royce Motor Cars Bangkok และเปิดประตูสู่โลกแห่งความพิเศษที่ไม่เหมือนใคร

